พาเลาะ เมืองยโสธร 9 ที่เที่ยวต้องไปเยือน

วันนี้เราจะ พาเลาะ เมืองยโสธร กับ 9 ที่เที่ยวต้องไปเยือน ซึ่งเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวแดนอีสาน หลายคนมักนึกถึงเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง แม้ยโสธรจะไม่ใช่เมืองหลักในการท่องเที่ยว แต่เมืองเล็กๆ ที่สงบแห่งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย และยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมอันดีงาม เพื่อให้ทุกคนรู้จักเมืองยโสธรมากยิ่งขึ้น

1.วัดมหาธาตุ
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวยโสธร มีพระธาตุพระอานนท์ ซึ่งเป็นพระธาตุเก่าแก่ สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ.1218 ภายในบรรจุพระอัฐิของพระอานนท์ให้ชาวยโสธรและพุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชา นอกจากนี้ยังมีหอไตรไม้เก่าแก่กลางน้ำ อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่งดงามและมีพระแก้วหยดน้ำค้าง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสมัยเชียงแสนที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
2.วัดพระพุทธบาทยโสธร
พาเลาะเมืองยโสธร แห่งต่อมาต้องไม่พลาดไปกราบพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่วัดเก่าแก่โบราณอายุกว่า 1,200 ปี โดยพระพุทธรูปมีความสูงถึง 3.7 เมตร นอกจากนี้ที่วัดยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง พระพุทธรูปนาคปรก ศิลาจารึกจากศิลาแลงและเจดีย์มหาชนะชัยที่มีความสูงถึง 45 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้ไปทำบุญและกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข
3.ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธร
มาถึงถิ่นยโสธร ต้องไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ด้วยเพราะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธรแห่งนี้โดดเด่นด้วยศิลปวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันถึง 3 วัฒนธรรม ได้แก่ วัฒนธรรมไทย จีนและลาว จึงมีความวิจิตรงดงามแปลกตา ที่สำคัญศาลหลักเมืองแห่งนี้ยังมีเสาถึง 3 เสาด้วยกัน ได้แก่ เสาผีพระละงุม เสาผีพระละงำและเสาหลักเมือง
4.พิพิธภัณฑ์พญานาคและพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
พาเลาะเมืองยโสธร ไปที่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเมืองยโสธรที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นับเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวพลาดแล้วจะต้องเสียดาย สำหรับพิพิธภัณฑ์พญานาค เป็นรูปพญานาคขนาดใหญ่ สูง 29 เมตร ยาว 111.5 เมตร ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของพญานาคและงูใหญ่จากทั่วโลกแบบ 4 มิติ รวมทั้งความเชื่อของชาวอีสานที่มีต่อพญานาค
ส่วนพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก เป็นรูปพญาคันคาก ภายในมีทั้งหมด 5 ชั้น สูง 19 เมตร เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองยโสธร ตำนานพญาแถนและตำนานพญาคันคาก ในรูปแบบของงานศิลปะ 4 มิติ โดยที่ชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวเมืองยโสธรในมุมสูงอีกด้วย
5.ย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า
ใครมายโสธรแล้วไม่ได้มาเยือนย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่าถือว่ามาไม่ถึง ด้วยเพราะเป็นย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนสมัยก่อนได้อย่างยอดเยี่ยม บ้านเรือนเป็นศิลปะแบบจีนผสมผสานวัฒนธรรมแบบยุโรปงดงามเป็นอย่างยิ่ง ให้กลิ่นอายและความรู้สึกถึงอดีตและวัฒนธรรมดั้งเดิมแดนอีสานได้เป็นอย่างดี
6.วัดอัครเทวดามิคาเอล บ้านหนองซ่งแย้
นอกจากศิลปวัฒนธรรมอีสานแล้ว ที่ยโสธรยังมีโบสถ์คริสต์สร้างจากไม้ขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของคริสต์ชนที่อาศัยอยู่ในเมืองยโสธร เป็นโบสถ์ที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง สามารถบรรจุคนได้มากถึง 500 คนเลยทีเดียว
7.พระธาตุก่องข้าวน้อย
พาเลาะเมืองยโสธร ไปชมพระธาตุเก่าแก่ศิลปะขอม เป็นเจดีย์รูปทรงแปลกและมีที่มาในการสร้างแตกต่างจากเจดีย์ทั่วไป โดยมีนิทานพื้นบ้านโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า ชายคนหนึ่งหิวข้าวจนหน้ามืดและทำร้ายแม่จนเสียชีวิต ด้วยความเสียใจและสำนึกผิดจึงขอบวชและสร้างองค์ธาตุนี้ขึ้นมา จนเป็นที่มาของคำว่า กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ จนถึงปัจจุบัน
8.ประติมากรรมจำลองสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ไม่พาเลาะ เมืองยโสธรเห็นทีจะต้องเสียดาย เพราะเป็นสถานที่จัดแสดงประติมากรรมจำลองสถานที่สำคัญจากทั่วทุกมุมโลก ย่อส่วนมาให้ทุกคนได้ชมความมหัศจรรย์กันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น กำแพงเมืองจีน พีระมิดอียิปต์ น้ำตกไนแองการา และสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมากมาย
9.หมู่บ้านทำหมอนขิด บ้านศรีฐาน
สถานที่สุดท้ายต้องไม่พลาด เพราะเป็นหมู่บ้านผลิตหมอนขิด เอกลักษณ์ของชาวยโสธร ไปชมขั้นตอนการทำหมอนขิดและเลือกซื้อหมอนขิดกลับบ้านไปเป็นของฝากและของที่ระลึก รวมทั้งสินค้าพื้นเมืองอีกมากมายหลายชนิด
เรียกได้ว่าแต่ละแห่งเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ที่ทุกคนไม่ควรพลาดอย่างแท้จริง นอกจากจะเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมที่ให้กลิ่นอายของความเป็นอีสานแล้ว สถานที่ทุกแห่งยังมีนักท่องเที่ยวไม่มาก สามารถท่องเที่ยวได้แบบเป็นส่วนตัว รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักเมือง ยโสธร แห่งนี้อย่างแน่นอน